ใครเคยมีโมเมนต์แบบนี้กันบ้าง? เดินวนอยู่ในร้านเครื่องเขียนแล้วสบายใจ จับปากกาลายสวยๆ ขึ้นมาเขียนแล้วฟิน อินกับการซื้อหนังสือที่ปกดีไซน์น่ารัก หรือเอ็นจอยกับช่วงเวลาสั้นๆ อย่างตอนแปรงฟันแล้วได้กลิ่นที่พิเศษเกินความคาดหมาย
สิ่งเหล่านี้ไม่ใช่เรื่องเกินจริงแต่อย่างใด เพราะนับเป็นสุนทรียะอย่างหนึ่ง เท่าๆ กับการฟังเพลงดูหนังดีๆ สักเรื่อง ท่ามกลางความเครียดและสังคมที่กดดัน
ถ้าศึกษาถึงพฤติกรรมมนุษย์แล้วจะเห็นว่า นอกจากความต้องการขั้นพื้นฐานแล้ว เรายังมีความต้องการเหนือไปกว่านั้น คือการมีความสุขจากสิ่งรอบตัว เรียกได้ว่ามากกว่า “Happiness” แต่คือ “Appreciation” ซึ่งหากแค่ได้สัมผัสหรือจ้องมองอย่างเดียวก็ยังไม่พอ การได้เป็นเจ้าของสิ่งนั้นต่างหาก นับเป็นความภูมิใจหรือสิ่งบ่งบอก Statement ความสุนทรีย์ของคนๆ นั้น
ทำไมของใช้ในชีวิตประจำวันที่สามารถซื้อได้ในราคาถูก แต่กลับมีหลายคนที่เลือก “จ่ายแพงกว่า” เพื่อให้ได้ของที่ดีกว่าและเฉพาะตัวกว่า เช่น เครื่องเขียน Tom Dixon, เทียนดิพทิค หรือ ยาสีฟัน Marvis เป็นต้น
ราคาที่ตามมานอกเหนือจากฟังก์ชันคืออะไร ทำไมเราไม่ซื้อเทียนถุงละ 10 บาทมาจุด ทำไมเราใช้ปากกา 7 บาทเขียนหนังสือไม่ได้ หรือทำไมเราไม่ซื้อยาสีฟัน 20-30 บาทที่ใช้ทำความสะอาดฟันได้เหมือนกัน
สิ่งที่เห็นได้ชัดเจนคือ ผลิตภัณฑ์เหล่านี้มีราคาสูง รูปลักษณ์สวยงาม เน้นความเฉพาะตัว ขับเน้นความเป็นงานฝีมือ คุณภาพวัสดุส่วนผสม และใส่ใจในรายละเอียดอย่างเข้มข้น
เครื่องเขียน Tom Dixon ทำด้วยวัสดุแข็งแรงทนทาน เช่น ทองเหลืองหรือสังกะสีอัลลอยด์ เมื่อรวมกับรูปทรงและสีที่ดูพรีเมียมยิ่งทำให้น่าหยิบมาใช้งาน แม้ว่าราคาจะแพงเกินเครื่องเขียนทั่วไปอยู่มากพอสมควร คนก็ยังเลือกซื้อ Tom Dixon เพื่อความสุข
หรืออย่างเทียนดิพทิคที่มีการออกแบบแพ็กเกจจิ้งเรียบหรู ถูกออกแบบกลิ่นโดย Perfumer ชาวฝรั่งเศส ใส่ใจตั้งแต่วัสดุของไส้เทียน ลักษณะการเผาไหม้ และตัวเนื้อเทียน จนทำให้มีกลิ่นหอมละมุนติดทนนานไม่เหมือนใครจนกลายเป็นของประดับห้องที่เป็นชีวิตของใครหลายคน
อย่างไรก็ตาม 2 สิ่งนี้ยังอยู่นอกเหนือจากชีวิตประจำวันไปอยู่นิดหน่อย แต่ของอย่างยาสีฟันที่ต้องใช้ทุกวัน ทำไมคนถึงยอมจ่ายแพงเพื่อแลกกับสุนทรียะของการแปรงฟัน
ปกติเรามักใช้เวลา 2-3 นาทีในการแปรงฟัน ซึ่งก็เป็นแค่ช่วงเวลาสั้นๆ ที่เรามักไม่ใส่ใจกับมันมากนัก แต่ Marvis ให้ความรู้สึกที่ทำให้เราอยากใช้เวลาในการแปรงฟันนานขึ้น จุดที่น่าสนใจคือ Marvis มีกลิ่นมินต์ที่ลงตัวเพราะเป็นงานคราฟต์ชั้นดีจากอิตาลี ผลิตในประเทศแห่งศิลปะนี้มากว่า 60 ปี เรียกได้ว่ากลั่นมาจากวัฒนธรรมของชาวอิตาลีอย่างแท้จริง เพื่อให้ช่วงเวลาของการแปรงฟันที่เป็น Short Moment กลายเป็น Precious Moment สำหรับคุณได้
เป็นที่รู้กันว่าคนอิตาลีดื่มกาแฟเป็นชีวิต จิบไวน์เป็นหัวใจ และสูบบุหรี่กันเป็นกิจวัตร ยาสีฟัน Marvis จึงผลิตมาเพื่อช่วยขจัดคราบชากาแฟหรือบุหรี่ ทำให้ฟันขาวขึ้น แก้ปัญหาคาใจนักดื่มนักสูบได้ดีเยี่ยม นักแสดงฮอลลีวู้ดหลายคนก็เลือกใช้ Marvis เพราะตอบโจทย์หลายอย่าง
สุนทรียะที่เราได้จากครีมเนื้อแน่น และ Piperita มินต์คุณภาพที่ให้กลิ่นหอมสดชื่นยาวนาน กับการแก้ปัญหาเรื่องปากและฟันได้อย่างพิเศษกว่าใคร ทำให้เราอยากตื่นมาแปรงฟันทุกเช้าด้วยความสุข และความสุนทรีนี้จะดำรงอยู่ต่อทั้งวัน สุดท้ายแล้วฟังก์ชั่นของการใช้งานทั่วไปจะถูกเติมเต็มด้วยความสุขและของคุณภาพเยี่ยม
นี่เองอาจเป็นเหตุผลง่ายๆ ว่าทำไมของใช้ที่ดูเหมือนจะธรรมดาๆ กลายเป็นของที่ไม่ธรรมดาและสร้างสุนทรียภาพบางอย่างได้
ที่มา :
http://www.metro-society.com/th/style/take-pleasure-seriously
https://www.facebook.com/metrosociety/posts/1015556852114595